สารจากคณะกรรมการ

บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นจะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย นอกเหนือจากฝาปิดผนึกที่มีคุณภาพชั้นนำ ด้วยกระบวนการจัดการและบุคลากรที่เป็นเลิศ มีนวัตกรรมและการให้บริการที่ครบวงจร เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน

หากพิจารณาโดยภาพรวมทางเศรษฐกิจและแนวโน้มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยในปี 2566 ที่ผ่านมา ประเมินเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากวิกฤตโรคโควิด-19 แม้ว่าผลกระทบในเชิงลบจากโรคโควิด-19 จะคลี่คลายลงแต่หลายปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจยังไม่กระเตื้องขึ้น เช่น วิกฤตพลังงานจากประเด็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน การเติบโตของหลายประเทศยังมีแนวโน้มอ่อนแอลงในระยะข้างหน้า การสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสสร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลกรวมถึงความเสี่ยงจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีน ราคาเหล็กและอลูมิเนียมมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามราคาวัตถุดิบ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผันผวนซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในกลุ่มอาเซียน ในขณะที่ประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว       มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น แต่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจยังต่ำกว่าอีกหลายประเทศในอาเซียนจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอ สถานการณ์อุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยในภาพรวมยังคงขยายตัวไม่มากนักตามภาวะกำลังซื้อที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพสูง ทำให้ผู้บริโภคลดการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยและกระแสของพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การปรับขึ้นราคาสินค้าจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและการเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มตามปริมาณความหวานตามโครงสร้างใหม่ อีกทั้งมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในประเทศไทย โดยมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในช่วงปลายปีซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ น่าจะเริ่มเห็นผลในปี 2567 เป็นต้นไป

สำหรับบริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ในปี พ.ศ. 2566 หลังจากสถานการณ์โรคโควิด-19 คลี่คลาย บริษัท ฯ ได้ประมาณการว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวและเติบโตต่อเนื่องจากปี 2565 แต่เนื่องจากสภาพตลาดและเศรษฐกิจเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ผลการดำเนินงานต่ำกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดของฝาชนิดต่าง ๆ ไว้ได้  นอกจากนั้นในส่วนงานด้านอื่น ๆ ปีนี้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายการทำงานปลอดภัยต่อเนื่องมากกว่า 365 วัน โดยไม่เกิดอุบัติเหตุขั้นรุนแรงและไม่เกิดผลกระทบต่อการผลิตสินค้า ข้อร้องเรียนด้านคุณภาพมีแนวโน้มลดลง บริษัทฯ สามารถดำเนินการและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้ตามแผน และในปี พ.ศ. 2567 บริษัทฯ มีเป้าหมายร่วมกันเพื่อ “ส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ได้ คุณภาพ ปริมาณ กำหนดเวลา ตามที่ลูกค้าต้องการ” โดยการอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจ จากทุกหน่วยงานภายในบริษัทฯ

ในปี 2566 บริษัทฯ ได้ดำเนินการยื่นต่ออายุใบรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทยและได้รับการรับรอง เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 และบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในเรื่องของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยบริษัทฯ ได้ผ่านการตรวจรับรองและขึ้นทะเบียน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” (Carbon Footprint for Organization : CFO) ตามมาตรฐานและข้อกำหนด ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และได้รับ Certificate Standard TGO Guidance of the Carbon Footprint for Organization เป็นปีที่ 2 อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน (CSR-DIW)  ประจำปี 2566 เพื่อเป้าหมายในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยได้รับรางวัล “CSR-DIW AWARD 2023” จากกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา และบริษัทฯ ได้ยื่นขอใช้เครื่องหมาย “ตราสัญลักษณ์ฮาลาล” กับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (สกอท.) และได้รับการรับรองแล้ว เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 โดยเครื่องหมายดังกล่าวนี้ จะออกให้สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มผลิตภัณฑ์ฮาลาล ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมุสลิมในการบริโภค

คณะกรรมการบริษัท ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา และขอขอบคุณพนักงานทุกท่านที่ทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการนำพาให้ บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและเข้มแข็ง พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนร่วมและผู้มีส่วนได้เสียที่ให้ความเชื่อถือและความไว้วางใจต่อบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา

 

ในปี 2563 เป็นปีที่ บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดดำเนินการครบ 50 ปีบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมสำคัญเพื่อ เป็นการตอบแทนสังคม อาทิเช่น บริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลราชวิถี 2 (รังสิต) และมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถีจำนวนรวม 5  ล้านบาท พนักงานร่วมอาสาพัฒนา ณ โรงเรียนวัดวังทิพย์พันธาราม ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก และร่วมเป็นเจ้า ภาพงานทอดกฐินสามัคคีณ วัดจันทรสุข ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรีจ.ปทุมธานีและในช่วงวิกฤตจากการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัทฯ และพนักงานได้ร่วมบริจาคถุงยังชีพแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ณ วัดสายสุวพรรณ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวงจ.ปทุมธานีและวัด  นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ปฏิบัติและควบคุมค่าต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามข้อบังคับของกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ มีการบำบัด และขจัดอย่างถูกวิธีตามข้อกำหนดด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมมิให้กระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของบริษัทฯ ตลอดจนได้ดำเนินการยื่นต่ออายุใบรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชั่นของภาคเอกชนไทยและได้รับการ รับรอง เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 โดยการรับรองดังกล่าวจะมีอายุ 3 ปีนับจากวันที่มีมติให้การรับรอง  คณะกรรมการบริษัทฯขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ ความเชื่อมั่นและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมาและขอขอบคุณพนักงานทุกท่านที่ทุ่มเทแรงกายและแรง ใจในการนำพาให้บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและเข้มแข็ง พร้อมรับกับการพัฒนาเปลี่ยนแปลง  สิ่งต่างๆให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดให้กับผู้มีส่วนร่วมและผู้มีส่วนได้เสียที่ให้ความเชื่อถือและให้ความไว้วางใจต่อ บริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา

ประวัติความเป็นมา

บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย ฝาจีบ ฝาเกลียวกันปลอม ฝาแม็กซี่ ฝาพลาสติก และฝาคอมโพสิต สำหรับปิดผนึกขวดบรรจุเครื่องดื่มหลากหลายประเภท เช่น น้ำอัดลม นมถั่วเหลือง เบียร์ โซดา เครื่องดื่มบำรุงกำลัง น้ำผลไม้ สุรา ชา น้ำดื่ม ซุปไก่สกัด รังนก และเวชภัณฑ์ รวมถึงจำหน่ายเครื่องผนึกฝาจุกจีบแบบคันโยกและเครื่องผนึกฝาแม็กซี่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการให้บริการรับจ้างพิมพ์แผ่นโลหะและแผ่นอลูมิเนียมตราต่าง ๆ

บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งในปี 2511 ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีการผลิตจากบริษัท นิปปอน โคลสเชอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท โตโย ไซกัน กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น และด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง รวมทั้งกำลังการผลิตที่มีเพียงพอ บริษัทฯ ได้จำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ฝาปิดผนึก บริษัทฯ ได้พัฒนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานกับลูกค้า ด้วยการยึดมั่นในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยการใช้เทคโนโลยีชั้นนำจากกลุ่มบริษัท โตโย ไซกัน กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด บริษัทฯ ยังคงทุ่มเทและมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ที่จะก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในอนาคต

ค่านิยม

วิสัยทัศน์

เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ฝาและบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูง ที่มีนวัตกรรม
เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค
โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทางอาหารและความยั่งยืน

พันธกิจ

1. ส่งมอบบรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยและมีคุณภาพสูง
2. วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสินค้าที่มีนวัตกรรมที่หลากหลาย
3. บริหารและจัดการกระบวนการทำงานที่เป็นเลิศด้วยนวัตกรรมและมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรโดยส่งเสริมให้พนักงานปฏิบัติตามค่านิยมหลักขององค์กร พร้อมจัดให้สถานที่ทำงานเป็นที่ปลอดภัยและพนักงานมีความสุขในการทำงาน
5. เป็นองค์กรที่มีความยั่งยืนในทุกด้านโดยปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ

2557

2558

2559

2560

2561

2562

2563

2564

2565

2566

ปี 2557

บริษัท ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท นิปปอน โคลสเชอร์ส จำกัด และ Davlyn Steel Corporation (Hong Kong) Co., Ltd. ตั้งบริษัท PT. Indonesia Caps and Closures ผลิตฝาในประเทศอินโดนีเซีย ทุนจดทะเบียน 5,750,000 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยถือหุ้น จำนวน 14,375 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน

ปี 2558

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในปี 2558

ปี 2559

บริษัทฯ เข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์เป็นแนวร่วมปฏิบัติ (Collective Action Coalition) ของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต

บริษัทฯ ได้ตัดจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท เฮอริเทจ สโตนแวร์ จำกัด จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งได้มีการตั้งสำรองลดลงของมูลค่าเต็มจำนวนไว้แล้วตั้งแต่ปี 2541 บริษัทดังกล่าวได้ล้มละลาย และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้คดีสิ้นสุดแล้วในปี 2559

ปี 2560

บริษัทฯ ได้ขายหุ้นใน บริษัท เพชรแพค จำกัด ทั้งหมดจำนวน 140,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 303 บาท ให้กับบริษัท บางกอก กล๊าส จำกัด (มหาชน)

บริษัทฯ สละสิทธิการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท Indonesia Caps and Closures จำกัด (ICC) จำนวน 15,375 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดของ ICC ให้กับบริษัทนิปปอน โคลสเชอร์ส จำกัด จำนวน 9,225 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 15 และให้กับบริษัท Davlyn Steel Corporation (Hong Kong) Co., Ltd. จำนวน 6,150 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่สละสิทธิการซื้อหุ้นเพิ่มทุน หลังการเพิ่มทุนของ ICC สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ใน ICC เท่ากับ 14,375 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 12.08 ของทุนจดทะเบียนของ ICC

บริษัทฯ ได้รับใบรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC) จากคณะกรรมการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต ในงาน “Thailand’s 8th National Conference on Collective Action Against Corruption” เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560

ปี 2561

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในปี 2561

ปี 2562

บริษัทขายหุ้นของบริษัท Indonesia Caps and Closures จำกัด (ICC) จำนวน 14,375 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 12.08 ให้กับบริษัท นิปปอน โคลสเชอร์ส จำกัด (NCC) จำนวน 8,625 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 7.25 และให้กับบริษัท Davlyn Steel Corporation (Hong Kong) Co., Ltd. (UCC) จำนวน 5,750 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 4.83 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 1,837.36 บาท/หุ้น

ปี 2563

บริษัทฯ ได้ดำเนินการทบทวนและกรอกแบบประเมินตนเองเกี่ยวกับมาตรการต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อขอยื่นต่ออายุใบรับรองสมาชิกฯ ต่อคณะกรรมการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 คณะกรรมการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทยได้มีมติให้การรับรองต่ออายุ “บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน)” เป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย โดยการรับรองดังกล่าวจะมีอายุ 3 ปี นับจากวันที่มีมติให้การรับรองตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2563 และครบกำหนดอายุการรับรอง 3 ปี ในวันที่ 30 กันยายน 2566

ปี 2564

บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน “รายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI)” ประจำปี 2564 ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการประกาศผล ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2564 และในปี 2565 บริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรสู่ความยั่งยืนต่อไป

ปี 2565

บริษัทฯ ได้ผ่านการตรวจรับรองและขึ้นทะเบียน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” (Carbon Footprint for Organization : CFO) ตามมาตรฐานและข้อกำหนด ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และได้รับ Certificate Standard TGO Guidance of the Carbon Footprint for Organization เป็นที่เรียบร้อย

ปี 2566

บริษัทฯ ได้รับใบรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC) จากคณะกรรมการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 โดยการรับรองดังกล่าวจะมีอายุ 3 ปี นับจากวันที่มีมติให้การรับรอง

บริษัทฯ ได้ผ่านการตรวจรับรองและขึ้นทะเบียน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร”(Carbon Footprint for Organization : CFO) ตามมาตรฐานและข้อกำหนด ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และได้รับ Certificate Standard TGO Guidance of the Carbon Footprint for Organization ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้มอบรับรางวัลเกียรติยศ CSR-DIW AWARD 2023 เพื่อแสดงว่าบริษัทฯ ได้รับมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการ (CSR-DIW) เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566

บริษัทฯ ได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนยื่นขอใบอนุญาต “เครื่องหมายฮาลาล” และได้รับใบอนุญาตมาตรฐานอาหารฮาลาล เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566

การบริหารจัดการความเสี่ยง

บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความสำคัญในการบริหารความเสี่ยงเชิงบูรณาการที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กร กระบวนการบริหารความเสี่ยงที่กำหนดขึ้นและกำกับดูแลโดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้ระบุเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอันส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์หรือเป้าหมาของบริษัทฯ และต้องมีการจัดการความเสี่ยงดังกล่าวให้อยู่ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ดังนั้นเพื่อให้การบริหารงานของบริษัทฯ ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพื่อเตรียมการรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้เป็นไปตามกรอบมาตรฐานการบริหารจัดการความเสี่ยงสากล COSO ERM 2017

มีกระบวนการบริหารความเสี่ยงที่เป็นไปตามมาตรฐานที่ดี เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินการ ของบริษัทฯอย่างมีประสิทธิภาพเกิดการพัฒนาและมีการปฏิบัติงานด้านการ บริหารความเสี่ยงทั่วทั้งบริษัทใน ทิศทางเดียวกันโดยนำระบบการบริหาร ความเสี่ยงมาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจวางแผนงาน และการดำเนินงาน รวมถึงมีการกำหนดแนวทางป้องกันและบรรเทาความเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย หรือความสูญเสีย ที่อาจเกิดขึ้น โดยมีการติดตามและประเมินผลการบริหารความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ

การบริหารความเสี่ยงเป็นความรับผิดชอบของพนักงานในทุกระดับชั้นที่ต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่มีในการปฏิบัติงานในหน่วยงานของตนและบริษัท โดยให้ ความสำคัญในการบริหารความเสี่ยงด้านต่างๆ ให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ และเหมาะสม

คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Committee) มีอำนาจหน้าที่ กำหนด และทบทวนนโยบายการบริหารความเสี่ยง วัตถุประสงค์ และกรอบการดำเนินงานบริหารความเสี่ยงโดยครอบคลุมความเสี่ยงที่สำคัญ และสนับสนุนให้ดำเนินการบริหารความเสี่ยงองค์กร สอดคล้องกับ กลยุทธ์และเป้าหมายทางธุรกิจ รวมถึงสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

โครงสร้างองค์กร

คณะกรรมการบริษัท

นายเทพ วงษ์วานิช
กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร
นายพรวุฒิ สารสิน
รองประธานกรรมการ
นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์
กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ
นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล
กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ และประธานกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน
นายโมโตอะกิ คิริ
กรรมการ
นายทาดะชิ ฟูนะฮาชิ
กรรมการ
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์
กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ และกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน
ศ.ดร. สุวิมล กีรติพิบูล
กรรมการอิสระ / กรรมการบริหาร และกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าแทน
นายโรจน์ฤทธิ์ เทพาคำ
กรรมการ
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข
กรรมการ
นายทาคะชิ คะซึตะ
กรรมการ
นายยูกิฮิโตะ โนซากิ
กรรมการ และกรรมการบริหาร
นายฮิสะโตชิ อิสุโบะ
กรรมการ / กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน และกรรมการบริหาร
นายโอภาศ ธันวารชร
กรรมการ / กรรมการบริหาร และผู้จัดการใหญ่
นางสาวราตรี จันทำ
เลขานุการบริษัท / เลขานุการคณะกรรมการบริษัท / เลขานุการคณะกรรมการบริหาร และเลขานุการคณะกรรมการสรรหาและะพิจารณาค่าตอบแทน

คณะผู้บริหาร

นายโอภาศ ธันวารชร
ผู้จัดการใหญ่
นายยูกิฮิโตะ โนซากิ
ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโสเทคนิค
นางจิรพร หนูทอง
ผู้อำนวยการบัญชีและการเงิน
นายหัสพงศ์ วาริพันธ์วรกุล
ผู้อำนวยการโรงงาน
นายอริยะ ธนานุกูลกิจ
ผู้อำนวยการขาย
นายบัญชา ไตรยปัญจวิทย์
ผู้อำนวยการประกันคุณภาพ
นายชรินทร์ วาณิชวทัญญู
ผู้อำนวยการเทคนิค

มาตรฐานการรับรองคุณภาพ

ติดต่อเรา

เราช่วยคุณได้อย่างไร