สารจากคณะกรรมการ

“เน้นย้ำ วิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ว่า บริษัทฯ จะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย นอกเหนือจากฝาปิดผนึกที่มีคุณภาพชั้นนำ ด้วยกระบวนการจัดการและบุคลากรที่เป็นเลิศ มีนวัตกรรมและการให้บริการที่ครบวงจร เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน”

ประเทศไทยในปี 2565 การฟื้นตัวของการบริโภคและการท่องเที่ยวดีขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงรวมถึงการผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศตลอดทั้งปี 2565 ได้ถึง 10 ล้านคน ทำให้รายได้ของประชากรและภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยวขยายตัวสูงขึ้น ส่งผลถึงกำลังซื้อในการบริโภคในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ เติบโตขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา รัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมมากขึ้น เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ จึงทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและกิจกรรมทางสังคม การพบปะสังสรรค์สามารถดำเนินได้จนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ ร้านค้า ร้านอาหารเปิดบริการ ผู้บริโภคสามารถรับประทานอาหารในร้านได้ด้วยมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ผ่อนคลายลง เป็นแรงหนุนให้การจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ เติบโตขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามในปี 2565 สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ก็ส่งผลถึงสินค้าที่เป็นวัตถุดิบหลักของบริษัทฯ เช่น อลูมิเนียม เหล็ก และพลาสติก ขาดแคลนและราคาปรับสูงขึ้น รวมถึงค่าพลังงานก็ปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทฯ ก็ได้มีการจัดการบริหารความเสี่ยงรองรับสถานการณ์ดังกล่าวได้แม้จะได้รับผลกระทบบ้าง ในส่วนของการบริหารต้นทุนก็มีการทำ Cost Improvement ทำให้ยอดขายสินค้าและผลกำไรของบริษัทฯ ในปี 2565 เติบโตขึ้น บริษัทฯ สามารถขยายตลาดได้ นอกจากนี้การแข่งขันบอลโลกในช่วงปลายปี 2565 เป็นสิ่งที่ช่วยหนุนให้ผู้ผลิตเครื่องดื่มต่าง ๆ ทำ Promotion เร่งการบริโภคให้มากขึ้นด้วย รวมถึงเทศกาลฉลองปีใหม่ 2566 ที่เริ่มจัดขึ้นเต็มรูปแบบหลังจากที่งดการจัดมาหลายปีจากการระบาดของโควิด-19

ด้วยความร่วมมือของพนักงานที่ได้ปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ประกอบกับที่บริษัทฯ ได้มีนโยบายสนับสนุนและจัดหาสถานที่ลงทะเบียนให้พนักงานรับการฉีดวัคซีนป้องการโรคโควิด-19  ซึ่งในปี 2565 สถิติการเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็มที่ 2 ครบ 100% ส่วนเข็มที่ 3 ได้ 93% ต้องขอขอบคุณในความร่วมมือของพนักงานทุกคนที่ให้ความสำคัญในการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด ตามมาตรการที่บริษัทฯ กำหนด เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ภายในโรงงานเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในการผลิตฝาส่งให้ลูกค้า ทั้งนี้เพื่อให้บริษัทฯ ยังคงดำเนินการทางธุรกิจได้ตามปกติและทำให้คู่ค้าของบริษัทฯ มั่นใจได้ว่าได้รับสินค้าที่ดีมีคุณภาพ

ในปี 2565 บริษัทฯ เริ่มเตรียมการในกิจกรรมเพื่อให้บริษัทฯ เติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืนต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ประชากรโลกให้ความสำคัญ โดยได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการส่งเสริมพัฒนาความรู้และงานวิจัย ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) บริษัทฯ ได้จัดโครงการแยกขยะภายในบริษัทฯ (Waste Management) และเริ่มโครงการนำเศษ Scrap ของฝามาทำการปรับเปลี่ยนให้นำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ  เช่น นำมาทำเป็นที่รองแก้ว ทำเป็นส่วนผสมในวัสดุปูพื้น ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเห็นผลในปี 2566 และในปี 2565 บริษัทฯ ได้รับการรับรองเป็นบริษัทขึ้นทะเบียน “ฉลากคาร์บอน” จากคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่สำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชน ผ่านกระบวนการทางธุรกิจ ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ฝาปิดผนึก บริษัทฯ ไม่ได้หยุดนิ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น ในปีที่ผ่านมาเราได้ผลิตฝา BIO Plastic Cap ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการส่งให้ลูกค้าทำการทดลองใช้

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการทบทวนและกรอกแบบประเมินตนเองเกี่ยวกับมาตรการต่อต้านการคอร์รัปชัน เพื่อขอยื่นต่ออายุใบรับรองสมาชิกฯ ต่อคณะกรรมการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย โดยการรับรองดังกล่าวจะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายน 2566 นับจากวันที่มีมติให้การรับรองมาแล้ว 3 ปี

คณะกรรมการบริษัท ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมาและขอขอบคุณพนักงานทุกท่านที่ทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการนำพาให้ บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและเข้มแข็ง พร้อมรับกับการพัฒนาเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดให้กับผู้มีส่วนร่วมและผู้มีส่วนได้เสียที่ให้ความเชื่อถือและให้ความไว้วางใจต่อบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา  อ่านเพิ่มเติม

ในปี 2563 เป็นปีที่ บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดดำเนินการครบ 50 ปีบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมสำคัญเพื่อ เป็นการตอบแทนสังคม อาทิเช่น บริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลราชวิถี 2 (รังสิต) และมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถีจำนวนรวม 5  ล้านบาท พนักงานร่วมอาสาพัฒนา ณ โรงเรียนวัดวังทิพย์พันธาราม ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก และร่วมเป็นเจ้า ภาพงานทอดกฐินสามัคคีณ วัดจันทรสุข ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรีจ.ปทุมธานีและในช่วงวิกฤตจากการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัทฯ และพนักงานได้ร่วมบริจาคถุงยังชีพแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ณ วัดสายสุวพรรณ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวงจ.ปทุมธานีและวัด  นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ปฏิบัติและควบคุมค่าต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามข้อบังคับของกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ มีการบำบัด และขจัดอย่างถูกวิธีตามข้อกำหนดด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อมมิให้กระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของบริษัทฯ ตลอดจนได้ดำเนินการยื่นต่ออายุใบรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชั่นของภาคเอกชนไทยและได้รับการ รับรอง เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 โดยการรับรองดังกล่าวจะมีอายุ 3 ปีนับจากวันที่มีมติให้การรับรอง  คณะกรรมการบริษัทฯขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ ความเชื่อมั่นและสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมาและขอขอบคุณพนักงานทุกท่านที่ทุ่มเทแรงกายและแรง ใจในการนำพาให้บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและเข้มแข็ง พร้อมรับกับการพัฒนาเปลี่ยนแปลง  สิ่งต่างๆให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดให้กับผู้มีส่วนร่วมและผู้มีส่วนได้เสียที่ให้ความเชื่อถือและให้ความไว้วางใจต่อ บริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา

ประวัติความเป็นมา

บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย ฝาจีบ ฝาเกลียวกันปลอม ฝาแม็กซี่ ฝาพลาสติก และฝาคอมโพสิต สำหรับปิดผนึกขวดบรรจุเครื่องดื่มหลากหลายประเภท เช่น น้ำอัดลม นมถั่วเหลือง เบียร์ โซดา เครื่องดื่มบำรุงกำลัง น้ำผลไม้ สุรา ชา น้ำดื่ม ซุปไก่สกัด รังนก และเวชภัณฑ์ รวมถึงจำหน่ายเครื่องผนึกฝาจุกจีบแบบคันโยกและเครื่องผนึกฝาแม็กซี่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการให้บริการรับจ้างพิมพ์แผ่นโลหะและแผ่นอลูมิเนียมตราต่าง ๆ

บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งในปี 2511 ได้รับการสนับสนุนเทคโนโลยีการผลิตจากบริษัท นิปปอน โคลสเชอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท โตโย ไซกัน กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น และด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง รวมทั้งกำลังการผลิตที่มีเพียงพอ บริษัทฯ ได้จำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ฝาปิดผนึก บริษัทฯ ได้พัฒนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานกับลูกค้า ด้วยการยึดมั่นในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยการใช้เทคโนโลยีชั้นนำจากกลุ่มบริษัท โตโย ไซกัน กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด บริษัทฯ ยังคงทุ่มเทและมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ที่จะก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในอนาคต

ค่านิยม

วิสัยทัศน์

บริษัทจะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย นอกเหนือจากฝาปิดผนึกที่มีคุณภาพชั้นนำ ด้วยกระบวนการจัดการและบุคลากรที่เป็นเลิศ มีนวัตกรรมและการให้บริการที่ครบวงจร เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน

พันธกิจ

  1.  วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อนำเสนอบรรจุภัณฑ์และสินค้าที่มีนวัตกรรมที่หลากหลาย
  2.  ส่งมอบบรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยและมีคุณภาพสูง
  3.  บริหารและจัดการกระบวนการทำงานที่เป็นเลิศด้วยนวัตกรรมและมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
  4.  นำเสนอสินค้าและให้บริการครบวงจรต่อลูกค้า
  5.  บริหารผลตอบแทนให้ได้ตามเป้าหมาย
  6.  สร้างวัฒนธรรมองค์กรโดยส่งเสริมให้พนักงานปฏิบัติตามค่านิยมหลักขององค์กร พร้อมจัดให้สถานที่ทำงานเป็นที่ปลอดภัยและพนักงานมีความสุขในการทำงาน
  7.  เป็นองค์กรที่มีความยั่งยืนในทุกด้านโดยปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ

2557

2558

2559

2560

2561

2562

2563

2564

2565

ปี 2557

บริษัท ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท นิปปอน โคลสเชอร์ส จำกัด และ Davlyn Steel Corporation (Hong Kong) Co., Ltd. ตั้งบริษัท PT. Indonesia Caps and Closures ผลิตฝาในประเทศอินโดนีเซีย ทุนจดทะเบียน 5,750,000 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยถือหุ้น จำนวน 14,375 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน

ปี 2558

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในปี 2558

ปี 2559

บริษัทฯ เข้าร่วมประกาศเจตนารมณ์เป็นแนวร่วมปฏิบัติ (Collective Action Coalition) ของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต

บริษัทฯ ได้ตัดจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท เฮอริเทจ สโตนแวร์ จำกัด จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งได้มีการตั้งสำรองลดลงของมูลค่าเต็มจำนวนไว้แล้วตั้งแต่ปี 2541 บริษัทดังกล่าวได้ล้มละลาย และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้คดีสิ้นสุดแล้วในปี 2559

ปี 2560

บริษัทฯ ได้ขายหุ้นใน บริษัท เพชรแพค จำกัด ทั้งหมดจำนวน 140,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 303 บาท ให้กับบริษัท บางกอก กล๊าส จำกัด (มหาชน)

บริษัทฯ สละสิทธิการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท Indonesia Caps and Closures จำกัด (ICC) จำนวน 15,375 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดของ ICC ให้กับบริษัทนิปปอน โคลสเชอร์ส จำกัด จำนวน 9,225 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 15 และให้กับบริษัท Davlyn Steel Corporation (Hong Kong) Co., Ltd. จำนวน 6,150 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่สละสิทธิการซื้อหุ้นเพิ่มทุน หลังการเพิ่มทุนของ ICC สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ใน ICC เท่ากับ 14,375 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 12.08 ของทุนจดทะเบียนของ ICC

บริษัทฯ ได้รับใบรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC) จากคณะกรรมการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต ในงาน “Thailand’s 8th National Conference on Collective Action Against Corruption” เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560

ปี 2561

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในปี 2561

ปี 2562

บริษัทขายหุ้นของบริษัท Indonesia Caps and Closures จำกัด (ICC) จำนวน 14,375 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 12.08 ให้กับบริษัท นิปปอน โคลสเชอร์ส จำกัด (NCC) จำนวน 8,625 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 7.25 และให้กับบริษัท Davlyn Steel Corporation (Hong Kong) Co., Ltd. (UCC) จำนวน 5,750 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 4.83 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 1,837.36 บาท/หุ้น

ปี 2563

บริษัทฯ ได้ดำเนินการทบทวนและกรอกแบบประเมินตนเองเกี่ยวกับมาตรการต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อขอยื่นต่ออายุใบรับรองสมาชิกฯ ต่อคณะกรรมการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 คณะกรรมการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทยได้มีมติให้การรับรองต่ออายุ “บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน)” เป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย โดยการรับรองดังกล่าวจะมีอายุ 3 ปี นับจากวันที่มีมติให้การรับรองตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2563 และครบกำหนดอายุการรับรอง 3 ปี ในวันที่ 30 กันยายน 2566

ปี 2564

บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน “รายชื่อหุ้นยั่งยืน หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI)” ประจำปี 2564 ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการประกาศผล ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2564 และในปี 2565 บริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรสู่ความยั่งยืนต่อไป

ปี 2565

บริษัทฯ ได้ผ่านการตรวจรับรองและขึ้นทะเบียน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” (Carbon Footprint for Organization : CFO) ตามมาตรฐานและข้อกำหนด ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และได้รับ Certificate Standard TGO Guidance of the Carbon Footprint for Organization เป็นที่เรียบร้อย

การบริหารจัดการความเสี่ยง

บริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความสำคัญในการบริหารความเสี่ยงเชิงบูรณาการที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กร กระบวนการบริหารความเสี่ยงที่กำหนดขึ้นและกำกับดูแลโดยคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้ระบุเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอันส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์หรือเป้าหมาของบริษัทฯ และต้องมีการจัดการความเสี่ยงดังกล่าวให้อยู่ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ดังนั้นเพื่อให้การบริหารงานของบริษัทฯ ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพื่อเตรียมการรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้เป็นไปตามกรอบมาตรฐานการบริหารจัดการความเสี่ยงสากล COSO ERM 2017

มีกระบวนการบริหารความเสี่ยงที่เป็นไปตามมาตรฐานที่ดี เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินการ ของบริษัทฯอย่างมีประสิทธิภาพเกิดการพัฒนาและมีการปฏิบัติงานด้านการ บริหารความเสี่ยงทั่วทั้งบริษัทใน ทิศทางเดียวกันโดยนำระบบการบริหาร ความเสี่ยงมาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจวางแผนงาน และการดำเนินงาน รวมถึงมีการกำหนดแนวทางป้องกันและบรรเทาความเสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย หรือความสูญเสีย ที่อาจเกิดขึ้น โดยมีการติดตามและประเมินผลการบริหารความเสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ

การบริหารความเสี่ยงเป็นความรับผิดชอบของพนักงานในทุกระดับชั้นที่ต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่มีในการปฏิบัติงานในหน่วยงานของตนและบริษัท โดยให้ ความสำคัญในการบริหารความเสี่ยงด้านต่างๆ ให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ และเหมาะสม

คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Committee) มีอำนาจหน้าที่ กำหนด และทบทวนนโยบายการบริหารความเสี่ยง วัตถุประสงค์ และกรอบการดำเนินงานบริหารความเสี่ยงโดยครอบคลุมความเสี่ยงที่สำคัญ และสนับสนุนให้ดำเนินการบริหารความเสี่ยงองค์กร สอดคล้องกับ กลยุทธ์และเป้าหมายทางธุรกิจ รวมถึงสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

โครงสร้างองค์กร

คณะกรรมการบริษัท

นายเทพ วงษ์วานิช
กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร
นายพรวุฒิ สารสิน
รองประธานกรรมการ
นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์
กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ
นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล
กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ และประธานกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน
นายโอภาศ ธันวารชร
กรรมการ / กรรมการบริหาร และผู้จัดการใหญ่
นายโมโตอะกิ คิริ
กรรมการ
นายทาดะชิ ฟูนะฮาชิ
กรรมการ และกรรมการบริหาร
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์
กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ และกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน
ศ.ดร. สุวิมล กีรติพิบูล
กรรมการอิสระ / กรรมการบริหาร และกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าแทน
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข
กรรมการ
นายทาคะชิ คะซึตะ
กรรมการ
นายยูกิฮิโตะ โนซากิ
กรรมการ และกรรมการบริหาร
นายฮิสะโตชิ อิสุโบะ
กรรมการ และกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน
นายโรจน์ฤทธิ์ เทพาคำ
กรรมการ
นางสาวราตรี จันทำ
เลขานุการบริษัท / เลขานุการคณะกรรมการบริษัท / เลขานุการคณะกรรมการบริหาร และเลขานุการคณะกรรมการสรรหาและะพิจารณาค่าตอบแทน

คณะผู้บริหาร

นายโอภาศ ธันวารชร
ผู้จัดการใหญ่
นายยูกิฮิโตะ โนซากิ
ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโสเทคนิค
นายหัสพงศ์ วาริพันธ์วรกุล
ผู้อำนวยการโรงงาน
นายบัญชา ไตรยปัญจวิทย์
ผู้อำนวยการประกันคุณภาพ
นายชรินทร์ วาณิชวทัญญู
ผู้อำนวยการเทคนิค
นางสาวนฤภร อรุณประพันธ์
ผู้อำนวยการขาย
นางจิรพร หนูทอง
ผู้อำนวยการบัญชีและการเงิน

มาตรฐานการรับรองคุณภาพ

ติดต่อเรา

เราช่วยคุณได้อย่างไร